Italy - Venizia

Saturday 14 april 2007, (day 8/17)

รถไฟออกเดินทางจาก Munchen Hbf ประมาณ 23.45 น. ใช้เวลา 8 ชม.ถึง Venice  รถไฟเป็นตู้นอน ห้องละ 6 เตียงข้างละ 3 ชั้น โชคดีที่ห้องเราไม่มีคนอื่นมานอนรวม มีแต่พวกเรากันเอง 5 คน พอขึ้นรถเรียบร้อยก็ล้างหน้าสีฟัน เปลี่ยนกางเกงนอนกันตามสบาย ก็เข้านอนเลยเพราะที่ไม่กว้างขวางพอที่จะนั่งคุยกันได้ ช่วงห่างระหว่างเตียงแคบจนไม่สามารถนั่งได้เพราะติดห้ว รถไฟวิ่งเร็วเรียบและเงียบมากนอนหลับแบบไม่รู้ตัวเลยว่ารถจอดกี่สถานนี เราตื่นก่อนถึงสถานนี ใน Venice เพื่อล้างหน้าสีฟันและเตรียมตัวให้เรียบร้อยก่อนถึงสถานี Venice เวลา 07.45 น.

ถึงสถานีรถไฟ Santa Lucia เวลา 0745 น. มีศูนย์รวมข้อมูลท่องเที่ยวอยู่บริเวณสถานีรถไฟ ค่อนข้างจอแจ ถ้าใช้บริการที่ San Marco - St. Mark Square อาจจะสะดวกกว่า แต่แผนที่ไม่แจกฟรี ขายในราคา 2.50 ยูโร แต่ที่ขายในร้าน Post card จะละเอียดและสวยกว่าแต่ก็ราคาแพงกว่า เราต้องเดินไปที่พักซึ่งห่างจากสถานนีรถไฟประมาณ 500 เมตร เดินลากกระเป๋าไปตามถนนขรุขระขึ้นๆ ลงๆ สะพาน 2-3 ครั้ง ผู้คนเดินกันไปมามากมายตั้งแต่เช้า ตอนแรกเรายังหาที่พักไม่พบเพราะป้ายโรงแรมเล็กและไม่ชัดเจนและยังอยู้ในตรอก เล็กๆ อีก เลยต้องไปถามคนขายหนังสือพิมพ์ซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้แต่ไม่รู้ทาง แต่ก็มีคุณลุงสูงอายุใจดีที่ยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งพูดอังกฤษไม่ได้เลยแต่ก็พยายามบอกทางให้เรา 

 และมาชี้ทางให้เกือบถึงหน้าปากซอยจนพบ และ ตรอกซอกซอยต่างๆ ก็เรียงรายไปด้วยร้านค้าประเภทเครื่องเป่าแก้วหลากสี หน้ากากาคาร์นิวัล ตุ๊กตาไม้สลัก และของที่ระลึก ที่สะพาน รีอัลโต้ ก็มีร้านค้าริมทางมากมาย

ที่ Venice มีตรอกซอกซอยอยู่ประมาณ 2000 ซอย จะมีแผนที่ยังไงก็คงช่วยไม่ได้มาก แต่การหลงทางก็ไม่น่ากลัวอะไร เพราะแทบทุกถนนและซอยต่างๆ นั้น เดินทะลุกันได้เป็นส่วนมาก แนะนำให้สังเกตุป้ายตามผนังตึก และจดจำร้านค้าเด่นๆ เอาไว้เป็น land mark จะเป็นการช่วยให้ไม่หลงทิศมากนัก และตามตรอกซอกซอยต่างๆ ก็เรียงรายไปด้วยร้านค้าประเภทเครื่องเป่าแก้วหลากสี หน้ากากคาร์นิวัล ตุ๊กตาไม้สลัก ของที่ระลึก และก็มีร้านค้าอื่นๆ ริมทางอีกมากมาย เดินดูได้เพลิดเพลินตลอดเส้นทาง

    Breakfast ระหว่างที่เรายังเอากระเป๋าไปเก็บในห้องพักไม่ได้นั้น เราก็เลยเดินไปชมเมืองและกินอาหารเช้าเติมพลังที่ร้าน Coppion Caffee ใกล้ทางเข้า Hotel ที่เราพักเป็นร้านขายชา กาแฟ ขนมมากมายและ Sandwich ทุกอย่างอร่อยมาก เรานั่งพักกินกันที่โต๊ะนอกร้านริมทางเดิน บรรยากาศดีมาก มีผู้คนเดินไปเดินมาตลอดเวลา นักท่องเที่ยวก็เดินไปเดินมาจำนวนมากเช่นกัน

ลานกว้างหน้าสถานีรถไฟ Santa Lucia

ใน Italy แบ่งการปกครองเป็น 26 แคว้น ไม่รวม Vatican แต่ละแคว้นมีเมืองหลวงของตนเอง

 เรือที่เรานั่งแล่นอยู่ใน Grand Canal จากท่าเรือ Santa Lucia ไปท่าเรือ San Marco

Murano

ระหว่างนั่งเรือต้องลอดสะพาน Rialto bridge one of Venice's most famour sights,

the bridge offers fine views of the Grand Canal,Venice-Italy

Lido di Venezia

Piazza San Marco, Venice, Italy

 Basilica di San Marco / Saint Mark's Basilica

The central arch features 13th century carvings of the Labours of the Months at St. Mark's St. Mark flanked by Angels, the statues crowning the central arch were added 
in the early 15th century

Piazza San Marco / Museo Correer

San Marco Campanile and St. Mark's Square

San Marco Campanile

 The clock, Torre dell'Orologio,at San Marco,Venice-Italy

Doge's Palace Venice (Palazzo Ducale)

 The Molo & Riva degli Schiavoni Gondola from Bacino di Marco

Dorsoduro

The Bridge of Sighs ,was built as a passageway

between the Palazzo Ducal and the prison

Grand Canal

Lunch อาหารมื้อกลางวันที่ร้าน Pizza and Icecream สั่ง Pizza 2 ถาดๆ 6.50,7 Euro และ Salad 1 ที่ จ่ายไป 18 Euro อร่อยมาก แต่มีแต่คนจีนเป็นคนขาย ลืมดูว่าพ่อครัวเป็นคนจีนหรือไม่ กินเสร้จก็เดินกลับที่พัก

 หน้าร้านค้าขายอาหาร และขนมหวาน

 ระหว่างทางก็ เดินผ่านร้านขายเครื่องแก้ว หน้ากากสำหรับใส่ในงาน Canival of Venice

Cartapesta (Paper mache) เสื้อยืด เมื่อเราเอากระเป๋าเข้าที่พักได้แล้ว พวกเราก็พักผ่อนกันสักพักใหญ่ๆ ตื่นมาอีกทีหนึ่งก็บ่ายๆ ก็กลับออกมาเดินเล่นรอบๆ Venice กันอีกและกลับมาใกล้ที่พักอีกทีประมาณเวลา 20.00 น. พวกเราแวะซื้อผลไม้และน้ำกินที่ Supermarket

 Rialto Bridge and Grand Canel
(one of Venice's most famous sights)

Rialto, one of Venice's most famour sights,

the bridge offers fine views of the Grand Canal,Venice-Italy

Gondola prows and San Giorgio Maggiore in the background

เรือ Gondola ค่านั่งเรือ Gondola ชม. ละประมาณ 3,000 บาท

Sunday 15 April 2007, (day 9/17)

ตื่นนอน 0800 น. Breakfast ที่ Hotel ราคาที่พักเค้ารวมอาหารด้วย แต่ไม่ค่อยดี เค้าจัดไว้ให้คนละชุด มีขนมปังคนละชิ้นอยู่ในซองpack ให้ชาหรือกาแฟ แต่เติมได้ พี่อุ๊บอกว่า Coffee อร่อยใช้ได้

Santa Maria Gloriosa dei Frari

  Church of San Giorgio Maggiore

ด้านหน้าสถานีiรถไฟ Santa Lucia ที่ Venice

Santa Maria della Satute

Check out ประมาณ 0900 น.เสร็จจากอาหารเช้า เราต้องฝากกระเป๋าไว้ที่ Hotel แล้วก็ออกไปเดินชมเมืองอีกที่ San Marco เป็นรอบที่ 3 มีคนมากกว่าเมื่อวานนี้เพราะมีกลุ่ม Tour จากเรือสำราญเข้ามาเยอะมาก กลับที่พักอีกที่ประมาณ 1330 น. เราไม่มีเวลานั่งกินอาหารกลางวันที่ร้าน เลยต่างคนก็ต้องแวะซื้ออาหารกันตามความต้องการแล้วก็ไปนั่งกินรอรถไฟที่ สถานี หน่อยกิน Pizza แป้งหนา 2.50 Euro พวกเราเตรียมตัว

เดิน ทางต่อไปยัง Milan รถไฟออกจากสถานี Venezia Santa Lucia เวลา 15.17 น. ถึง Milan 18.45 น. เราพักที่ Milan 1 คืน วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนมากๆ.....

Dinner เรากินอาหารมื้อเย็นที่ ร้านตรงข้ามซอยของโรงแรมที่เราพัก สั่งอาหารเป็น set มี soup, beef steak,Salad และ Red wineจ่ายคนละ 15 Euro บวก tip อีกคนละ 5 รวมค่าอาหารก็จ่ายคนละประมาณ 20 Euro อร่อยมากกินเสร็จก็เข้าที่พัก นอนหลับสบายใจ

กินอาหารเช้าเสร็จแล้ว เราก็ไปที่ท่าเรือ อยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟ Venezia Santa Lucia เราต้องจ่ายคนละ 6 Euro เพื่อนั่งเรือชมวิวและไปขึ้นที่ท่า San Marco ใช้เวลาเข้าแถวรอเรือไม่นานมาก มีนักท่องเที่ยวเต็มลำเรือ บ้างก็นั่งบ้างก็ยืน ทุกคนตื่นตาตื่นใจกับสภาพบ้านเรือนที่ตั้งอยู่เรียงรายบน Grand Canal และสีน้ำทะเลสีฟ้าปนสีเขียวมรกตก็ทำให้ดูสวยงามตลอดเส้นทาง ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ถึงที่หมาย

Dinner มื้อนี้ชัยกับอุ๊เดินไปซื้ออาหารที่ร้าน Burger King ในสถานีรถไฟ ได้ burger มา 5 ชิ้นเราจ่ายไป 17.35 Euro แล้วมานั่งกินกันที่สถานี Nuernberg ระหว่างรอรถไฟ

 Check in ที่ Hotel Arial Silva Calle della Masena,

Cannaregio 1391/a, 30121 Venezia,

Tel 041.714.773 Tel./Fax 041.720.326 คืนละ 2,330 บาท/คน/คืน

สถาที่ตั้งของโรงแรม อยู่ไกลสถานีไปสักหน่อย ห้องพักสำหรับสองคนก็เล็กไปสักนิดเพราะเนื่องจากว่าพอวางกระเป๋าเดินทางแล้ว ก็เกือบหาทางเดินเกือบไม่ได้ ส่วนห้องของเรา 3 คนมีสามเตียงก็พอกว้างสักหน่อยไม่คับแคบเกินไป แต่จะอยู่คนละอาคาร เป็นห้องที่อยู่ชั้นล่างติดถนน ซอยคนเดินซึ่งอยู่ห่างจาก Hotel สักสิบก้าว ห้องก็กว้างดี ห้องน้ำก็ดี มีที่เป่าผม ราวตากผ้าไฟฟ้า แต่ในห้องพักนี่ซิมันมีกลิ่นเหม็นออกมาจากท่อน้ำทิ้งใต้ดิน ซึ่งฝาท่อนั้นมันก็อยู่ในห้องนอนเราตรงหัวนอนเตียงเสริมซึ่งอยู่หน้าห้องน้ำ พอดี หลังจาก check in เสร็จ ก็ต้องรอให้ถึงเวลา 10:00 น. ก่อนถึงจะเอากระเป๋าไปเก็บเข้าห้องพักได้ ซึ่งทาง Hotel ก็รับฝากดูแลกระเป๋าพวกเราให้เรียบร้อย