5 December 2003 (day 1/4)
First day trip, Bangkok -Aranyaprathet-Seam Reap (day 1/4)
คณะเรามี 6 คน พิทักษ์ หน่อย อุ๊ ชมพู ชัย และ ธา
การ
เดินทางครั้งนี้จัดโดยพิธีกรจัดรายการเพลงสากล ที่มีเสียงไพเราะชื่่อคุณ
นฤทธิ์ พันธุเมธา ซึ่งให้ Amazing Tour เป็นผู้จัดการ
การเดินทางครั้งนี้ ค่าใช้จ่ายคนละ 9,900 บาท รวมทุกอย่างตั้งแต่ค่ารถ
ที่พักอย่างดี อาหารบางมื้อก็มี serve wine ให้กินด้วย
ตั๋วเข้าชมสถานที่ตลอดรายการ โดยรถทัวร์ขนาดใหญ่ 2 คัน ลูกทัวร์ประมาณ 80
คน เค้านัดให้พวกเราไปขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ ประมาณ 05.30 น.
แต่กว่าจะออกเดินทางได้ก็ประมาณ 6 โมงกว่า
เหมือนถูกหลอกเรื่องเวลายังไงก็ไม่รู้ เพราะเค้ากลัวว่าคนไทยไม่ตรงเวลา
ก็กลายเป็นว่าบริษัททัวร์นั้นแหละไม่ตรงเวลา
ระหว่างทางเค้าแวะให้กินอาหารมื้อเช้าที่ร้านแถวๆ ปราจีน
แล้วก็มุ่งหน้าสู่ชายแดน อ.อรัญญประเทศ จ. สระแก้ว
ถนนทั้ง
เส้นเป็นดินแดง และเป็นหลุมทั้งเล็กและใหญ่ตลอดเส้นทาง
ขอย้ำเป็นหลุมทั้งเล็กและใหญ่ตลอดเส้นทาง รถจะแล่นเร็วไม่ได้เลย
ต้องค่อยๆไป แล่นแบบงูเลื้อยไปเรื่อยๆ เพราะต้องหลบหลุม
และรถก็จะกระแทกและโยกไปมาตลอดการเดินทางเช่นกัน
ก็เป็นอะไรที่สนุกดีเหมือนกัน ประทับใจไม่เคยลืม
ในปัจจุบันได้ถามเพื่อนที่เพิ่งไปมาเมื่อต้นปี 2008 เค้าเล่าว่า
ถนนได้ทำใหม่เป็นบางช่วงแล้ว
เดินทางได้เร็วกว่าตอนที่พวกเราไปมากถ้าจำไม่ผิดใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม.
ก็ถึงแล้ว พวกเราออกเดินทางประมาณ 11.00 น.
และกว่ที่เราจะเดินทางถึงเสียมเรียบเพื่อ check in เข้า โรงแรม
นั้นก็ประมาณ 20.00 น. กว่า รวมเวลาประมาณ 8 ชม.กว่าๆ ซึ่งใช้เวลานานเกินไป
แต่ถ้าเป็นรถเก๋ง 4 ล้อ ก็จะใช้เวลาน้อยกว่านี้
ระยะทางจากกรุงเทพถึง อ. อรัญญประเทศ จ. สระแก้ว ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.
ข้ามไปฝั่งเขมรคือ อ. ปอยเปต จ. บันเตียเมียนเจย จากจุดนี้ ถึงศรีโสภณ 50 กม. ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. และระยะทางจากศรีโสภณไปถึงเสียมราฐ 100 กม. ใช้เวลาประมาณอีก 5 ชม.
ทุ่งนาผืนกว้างระหว่างทางที่รถแล่นผ่าน
Amazing Tour ให้เราแวะยืดแขนยืดขา ที่ อ. ศรีโสภณ เข้าห้องน้ำ และกินอาหารว่าง มีชา กาแฟ ขนมปังซึ่งเตรียมไปจากฝั่งไทย
ยามพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน คณะเราก็ยังไม่ถึงเสียมเรีบสักที
เค้าจัดให้เรากินอาหารมื้อค่ำที่ริมสระน้ำของโรงแรม และมีการแสดงรำแบบเขมรให้ชม
เนื่องจากคืน นี้เป็นวันเฉลิมฯ 5 ธันวาคม 2003 เรามีการจุดเทียนชัยและร้องเพลงถวายพระพรให้ในหลวงของเราเสียงดังลั่นโรงแรม ด้วย หลังจากนั้นคุณนฤทธิ์ก็เดินทักทายลูกทัวร์ทุกโต๊ะ และแจกเสื้อยืดที่มีภาพพิมพ์นครวัดอยู่กลางหน้าอกเป็นที่ระลึก
กินอาหาร
มื้อค่ำ กับเบียร์ลาว กระป๋อง ชนกระป๋อง เสร็จก็แยกย้ายกันเข้าห้องพัก
เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตีสี่ครึ่ง เช้ามากๆ เพื่อไปนครวัดดูพระอาทิตย์ขึ้น
และวันนี้ตับ ไต ไส้พุง ก็ถูกรถเขย่าซะป่วนไปหมด
และก็เหนื่อยจากการเดินทางที่แสนจะยาวนานมาก นอนหลับสบายจริงๆ
เรื่อง
Visa - Amazing Tour เป็นผู้จัดการเรื่อง visa ผ่านแดน
พวกเราได้ทำมาจากที่กรุงเทพแล้ว หัวหน้า Guide
เค้าเก็บหนังสือเดินทางให้เราตลอดการเดินทาง
เราไม่ต้องยืนตากแดดเข้าแถวต่อชาวบ้านอื่นๆ
แต่สามารถตั้งแถวใหม่แล้วเดินผ่านแดนเข้าไปในเขตเขมรได้เลย
เสียค่าทัวร์แพงกว่าที่อื่นหน่อยก็มีดีเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แหละ
เราต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถซึ่งเป็นของฝั่งเขมร เป็นรถที่สภาพไม่ดีเลย
และที่ว่างระหว่างเก้าอี้นั้นมันก็แคบมากๆ สำหรับผู้มีขายาว
จะนั่งเมื่อยมากๆ แต่ถ้าขาสั้นอย่างเราก็ไม่มีปัญหาอะไร ต้องใช้รถ mini bus
ทั้งหมด 4 คัน นั่งคันละประมาณ 20-25 คน ทุกคันมี guide ประจำคันละ 2 คน
เป็นไทย 1 คน และเขมร 1 คน กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย
รถก็ออกเดินทางจากเขตชายแดนก็ประมาณ 11.00 น.
มีต่อ .......... พรุ่งนี้ไปนครวัดแต่เช้ามืด
http://pkchompoo1.blogspot.com/2010/09/angkor-wat.html