Cambodia 2003 - Phnon Bakheng


6 December 2003
ปราสาทพนมบาเคง
ตั้ง อยู่บนเขาลูกเล็กมีความสูงประมาณ 70 เมตร มีชื่อเรียกในสมัยโบราณว่าปราสาทพนมกันดาล (พนม แปลว่า ภูเขา, กันดาล แปลว่า กลาง) ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างปราสาทพนมกรอมกับปราสาทพนมบก ซึ่งอยู่บนภูเขาขนาดใกล้เคียงกัน ต่อมาเรียกปราสาทนี้ว่า ปราสาทพนมบาแคงตามลักษณะของต้นบาแคง (คล้ายต้นมะขาม) ที่มีอยู่มากในบริเวณภูเขานี้ ชื่อของปราสาทดั้งเดิมจริงๆ นั้นเรียกว่า ปราสาทยโศธระปุระ คือใช้ชื่อของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 นั่นเอง ตัวปราสาทอยู่ใจกลางของยอดเขาปราสาทพนมบาแคง จำลองลักษณะมาจากปราสาทบากอง

สถาปัตยกรรม คล้ายกับรูปทรงแบบปิรามิด ที่ตัวระเบียงแต่ละชั้นมีปราสาทเล็กๆ 4 มุม ภายในปรางค์ประธานมีศิวลึงค์ตั้งอยู่ตั้งแต่ พ.ศ.1450 ในปีที่เริ่มสร้างปราสาท ในขณะที่การก่อสร้างยังคงดำเนินต่อไปจาก พ.ศ. 1450-1471 นานถึง 21 ปี หลังจากนั้นอีก 40 ปีในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ได้มีการบูรณะซ่อมแซมปราสาทนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก พระพุทธรูปที่เห็นในปรางค์ประธานนั้น มีการอัญเชิญพระพุทธรูปขนาดใหญ่ขึ้นไปประดิษฐานบนแท่นหินทรายแทนศิวลึงค์ เมื่อ พ.ศ. 2059

ปราสาท พนมบาแคง เป็นศาสนสถานแห่งแรกของเมืองพระนคร ทางขึ้นอยู่ทางทิศตะวันออกเป็นเขาสูงชัน ปัจจุบันตัวปราสาททรุดโทรมลงมากแต่ยังมีความยิ่งใหญ่ เริ่มจากบันไดขึ้นสู่ปรางค์ประธานที่มีอยู่ 5 ชั้น แต่ละชั้นมีปรางค์เล็ก 12 ปราสาท รวม 5 ชั้น มี 60 ปราสาท ส่วนบนยอดมีปรางค์บริวารล้อมรอบปรางค์ประธานอีก 4 ปราสาท เสมือนเป็นการจำลองยอดเขาพระสุเมรุรวมทั้งหมดมี 89 ยอด

ตัว ปราสาท ตั้งอยู่บนยอดเขา จึงเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม โดยเฉพาะเห็นยอดปราสาทนครวัดผุดขึ้นกลางป่า ในยามบ่าย แสงสาดส่องเข้าปรางค์ปราสาทนครวัดทำให้เห็นเป็นสีทอง นอกจากนั้นยังเห็นวิวได้ 360 องศา เป็นบารายทิศตะวันตกซึ่งกลางบารายนี้จะมีสระเล็กๆ เป็นที่ตั้งของปราสาทแม่บุญตะวันตก นอกจากนี้ยังเห็นตัวเมืองเสียมเรียบ เห็นยอดเขาพนมบกที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 14 กิโลเมตรและเทือกเขาพนมกุเลนทอดยาว สามารถเยี่ยมชมได้ทั้งช่วงตอนบ่าย-เย็น เพราะจะได้ดูพระอาทิตย์ส่องตัวปราสาทนครวัด หรือจะรอดูพระอาทิตย์ตกก็สวยงาม

พวกเราขึ้นไปข้างบนเจอเพื่อนรักคือพี่บัวแดงและครอบครัว ซึ่งอยู่กรุงเทพไม่ค่อยได้พบกัน แต่กลับไปเจอกันที่ฝั่งเขมรโน้น
  บรรยากาศยามเย็น ใกล้พระอาทิตย์จะตกดินบนปราสาทพนมบาแคง


 
 นั่งรอพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งหัวหน้า tour guide สั่งว่า ถ้าพราะอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ต้องรีบลงจากเขาโดยทันที เพราะที่นี่ไม่มีไฟฟ้า จะมองไม่เห็นทาง จะเกิดอันตรายในการเดินลงได้ เลยขอแนะนำว่าให้พกไฟฉายไปด้วยคนละอัน จะได้ไม่ต้องรีบลงเหมือนพวกเรา
 ทางขึ้นปราสาทมี 2 ทาง ทางแรกขึ้นด้านหน้า ค่อนข้างชัน เป็นดินแดงผสมหินก้อนใหญ่ๆ ไม่ได้ทำให้เดินสบายๆ แต่ต้องมีความพยายามสักหน่อย อีกทางหนึ่งคือทางช้างเดิน ทางนั้นจะดีกว่าเป็นทางดินแดง แต่กว้าง ไม่ชันแต่ระยะทางจะยาวกว่าเล็กน้อย เราใช้เดินลงจากปราสาทซึ่งปลอดภัยกว่า